คุณกำลังรู้สึกตกรถ 🚄 เพราะตามตลาดที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วไม่ทัน และไม่ได้ Action อะไรเลยมั้ยครับ?
เมื่อ 2 ปีที่แล้วผมเป็นแบบคุณ พยายามไถมือถือทั้งวันเพื่อหา Gems ให้เจอ ตามคนใน 𝕏 ให้ทัน
แต่หลังจากบทเรียนหลายๆอย่างที่ผ่านมา ผมค้นพบแล้วว่าเราไม่ได้ต้องไล่ตามมัน แต่เราต้องไปดักรอมันและไปนั่งรอมันมาเรา 💎
บทความนี้ผมจะพูดถึง 3 Narrative ที่ผมลงทุนและเชื่อมั่นว่ามันมีโอกาสเติบโตมหาศาล
ไปดูกันครับ 🚀
Disclaimer ผมลงทุนในเหรียญที่พูดถึงในบทความนี้ และบทความนี้ไม่ใช้คำแนะนำทางการลงทุน ⚠️
Update ตลาดกันก่อน :
สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าตอนนี้ตลาดเป็นเทรนอะไร ผมตอบเลยนะครับ ว่าตอนนี้ trend ของ DeFi sector อยู่ในขาขึ้นหรือตลาดกระทิง
เหตุผล
- Total value lock เพิ่มขึ้นจากจุดต่ำสุดกว่า 40% (37B --> 52B)
- Stable inflow กลับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องครั้งแรกนับจากกลางปี 2022
- คนใช้งาน DeFi มากขึ้น ความสนใจ/การพัฒนา และการระดมทุกบน DeFi เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผมเคยสอนวิธีวิเคราะห์ตลาด Step-by-step ไปแล้วในบทความนี้ครับ
ทำไมต้องตามหา Narrative ?
เพราะมันคือ story ที่สามารถดึงความสนใจให้เงินไหลเข้ามาในเหรียญที่อยู่ภายใต้ Narrative นั้นๆได้ ลองนึกภาพของ $PEPE, $DOGE ดูครับ
(ความสนใจมากขึ้น = แรงซื้อมากขึ้น --> ราคาเหรียญขึ้น)
ฉะนั้นเป้าหมายของผมคือหาเหรียญที่พื้นฐานดีและอยู่ภายใต้ Narrative ที่มันน่าสนใจจริงๆและมีโอกาสเติบโตสูง ซึ่งนี่เป็น framework ที่ผมใช้เพื่อ "Make it" ใน Cycle นี้ครับ
Narrative ที่ผมลงทุน ✨
1. LSDfi
LSD หรือ Liquid staking derivative คือ solution ที่ออกมาแก้ปัญหาของการนำ ETH ไป stake เพื่อรับ Yield ที่โทเคนของเราจะต้องถูกล็อคและเอามาใช้งานใน DeFi ไม่ได้ LSD ออกมาแก้ปัญหานั้น
ส่วน LSDfi คือการสร้างมาเพื่อนำ LST (liquid staking token ; stETH, rETH) ไปใช้งานต่อยอดเพื่อให้ได้ Yield จาก $ETH มากขึ้น
LSD มีโอกาสการในการเติบโตที่แน่นอน ปัจจุบัน $ETH เพียงแค่ 23.8% เท่านั้นที่กำลัง Staked อยู่ และเมื่อคนกลับมาสนใจ $ETH มากขึ้น หรือถ้ามีการอนุมัติ ETH ETF จริง ทั้งนักลงทุน โดยเฉพาะสถาบันยิ่งจะต้องมีความสนใจการถือ $ETH แล้วได้ 3-5% ต่อปีมากกว่าการถือไว้เฉยๆแน่นอน
ฉะนั้นการที่ Staked $ETH จะขึ้นไปถึง 50% เป็นไปได้ง่ายมาก (เติบโตอย่างน้อย 100%)
แล้วถ้าผมบอกว่าถ้าคุณมาใช้งาน LSDfi คุณจะได้ Yield จาก $ETH มากกว่า 10% ต่อปี จะเอามั้ยครับ?
ฉะนั้นสรุปสั้นๆ ว่า LSD เติบโตแน่นอนอย่างน้อยๆ 100% (~30B $) และถ้าเพียง 1% ของเงินก้อนนี้ไหลเข้าไปใน LSDfi สักตัว นั้นคือการเติบโตกว่า 10x ในแง่ของ TVL นะครับ
✅ LSDfi มีโอกาสเติบที่สูงกว่าและความเสี่ยงที่สูงกว่า LSD ผมจึงเลือกลงทุนใน Narrative นี้ครับ
My Pick : Lybra Finance, Prisma Finance
2. RWA
Real world Asset หรือ RWA คือการทำสินทรัพย์ที่เราใช้งาน Off chain อยู่ในโลก Traditional finance มาทำให้กลายเป็น Token อยู่บน Blockchain เช่น อสังหาริมทรัพย์ พันธบัตรรัฐบาล น้ำมัน ผลผลิตทางการเกษตร หรือจะเป็น Carbon credit ก็สามารถทำได้
ซึ่งหนึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนถึงความสำเร็จคือ MakerDAO ที่นำเงินไปลงทุนใน T-Bill ของสหรัฐและนำรายได้ที่เกิดขึ้นมาแบ่งให้ผู้ใช้งานเหรียญ DAI(stable coin) จนเกิดเป็น DSR(DAI saving rate) ที่แค่ถือเหรียญ DAI ก็จะได้ผลตอบแทน 4-5% ต่อปี
ทำให้นักลงทุนเริ่มเห็นความทรงพลังและมูลค่าของสินทรัพย์ที่อยู่ Off-chain ว่ามันมหาศาลขนาดไหนและหากมันไหลเข้ามา ตลาดคริปโตจะมีโอกาสเติบโตอีกมาก จึงเกิดเป็น RWA narrative ขึ้นมา
ซึ่งมีการเติบโตกว่า 10 เท่าตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมาโดย TVL เพิ่มจากประมาณ 100m ขึ้นมาเป็น 5 Billion ในปี 2023 นี้ ผมจึงถือว่า Narrative เป็นอันที่ห้ามพลาดและควรจะมีการแบ่งพอร์ทมาลงทุนในเหรียญ Sector นี้
Overview
ปัจจุบันใน Sector นี้มีเกือบ 50 ตัวที่กำลังพัฒนาอยู่ทั้งใหม่และเก่า
On-chain credit นำคริปโตไปปล่อยกู้ให้กับธุรกิจขนาดใหญ่ถึงเล็ก เพื่อให้ Lender ได้ Yield มากขึ้นและ Borrower ก็ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ง่ายและอัตรดอกเบี้ยดีกว่าธนาคาร
Tokenizer : Dapps ต่างๆที่ออกมาเพื่อช่วยให้ Tradfi ต่างๆ รวมถึงบุคคลทั่วไปนำสินทรัพย์ต่างๆ ให้กลายมาเป็น Token ได้ง่ายขึ้น กลุ่มนี้มีหลายแบบมากทั้ง T-Bill, Real estate, Argriculture, Carbon credit เป็นต้น
L1/App chain เป็นเชนสร้างมาเพื่อรองรับ Dapps เกี่ยวกับ RWA
Stablecoin เป็นการนำ RWA มาคำ้ประกันเพื่อปล่อยกู้ Stablecoin ออกมา โดย RWA ที่นิยมที่สุดคือ T-Bill เพราะสามารถสร้าง passive income ให้กับ holder ได้ชัดเจนและสม่ำเสมอ ตัวที่เป็น leader คือ MakerDAO
โดยกลุ่มที่ผมสนใจมากที่สุดในกลุ่มนี้คือคนที่ innovative และนำ RWA ไปต่อยอดให้เกิด USE case ใหม่ โดยตัวที่ผมสนใจศึกษาเพิ่มและลงทุนคือ
My Picks : MakerDAO (ตัวนี้เป็น Clear winner สำหรับผม), Polytrade, RevestFinance
3. BRC-20
DeFi บน BTC เป็น Concept ที่ฟังดู Skeptical มากถ้าย้อนกลับไปเมื่อต้นถึงกลางปี 2023 ที่มันพึ่งเปิดตัวออกมา แต่ตอนนี้มันกลายเป็นหนึ่งใน Narrative ที่มาแรงมากๆ และผมมองว่ามันจะเติบโตต่อไปได้อีก
ต้องบอกก่อนว่าผมไม่ได้เชื่อใน BRC-20 ในตอนนี้ด้วยทั้ง Fundamental และ Tech ผมมองการลงทุนใน Narrative นี้เหมือนการ Bet กับ Meme coin (Top gainer ใน 60 วันที่ผ่านมาคือ $BONK meme coin บน Solana) แต่ผมมองว่า Narrative นี้จะได้รับประโยชน์และมีเงินไหลเข้าอย่างรุนแรงในปี 2024
ปี 2024 คือปีของ Bitcoin ปัจจัยทุกๆอย่างของโลกที่สนับสนุนการเติบโตของ $BTC กำลังจะเกิดขึ้นพร้อมกันในปีหน้า
BTC ETF approval
Bitcoin Halving
Macro economics
Crypto Bull market
ฉะนั้นผมจึงมองว่าในปี 2024 เรามีโอกาสได้เห็น $BTC ขึ้นไปทำ ATH สูงมาก และเมื่อ BTC กำลังอยู่ในช่วง Price discovery จะมีเงินมหาศาลจากทั้งภายใน BTC holder ที่ต้องการ Leverage BTC ที่ถืออยู่รวมถึงเงินจากข้างนอกที่ต้องการหา Plays บน BTC ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นทั้ง Beta/Alpha plays
Bull run รอบที่แล้วการไหลของเงินคือ BTC —> ETH —> Altsแต่รอบนี้ BTC มี DeFi/NFT ecosystem เป็นของตัวเองที่ Mature มากพอสมควรแล้วจะฉะนั้นปีหน้าเมื่อเงินไหลเข้า BTC หลัก Trillions Dollars
เพียงแค่ 1% ของเงินนี้ไหลเข้ามาในกลุ่ม BRC-20 ก็สามารถทำให้ Market cap ของเหรียญทั้งกลุ่มนี้ขึ้นไป 2 เท่า
My picks : ORDI, TRAC, MUBI
อย่างไรก็ตามเหรียญที่ผมมั่นใจว่าจะขึ้นและมีความเสี่ยงที่ต่ำที่สุดในปี 2024 คือ BTC, ETH และ MKR ซึ่งเพียวพอสำหรับการทำกำไรหลักหลาย 100% ได้ไม่ยากเลย ส่วนเหรียญที่ผมยกขึ้นมาพูดนั้นไม่ได้มาพื้นฐานที่ดีเท่าและไม่ผ่าน Test of time ขนาดนั้นมีโอกาสกลายเป็น 0 สูง
ขอให้ทุกคนโชคดีกับปี 2024, Merry Christmas ครับ XD